กินดีเล่าดี : EP 08 ฟักทอง เมนูสุขภาพการลดน้ำหนัก

กินดีเล่าดี : EP 08 ฟักทอง เมนูสุขภาพการลดน้ำหนัก

ฟักทองเป็นอาหารเพื่อสุขภาพของผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก เพราะฟักทองมีกากใยที่สูงมาก มีแคลอรีและไขมันน้อย จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดความอ้วนและควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี เพียงแค่รับประทานฟักทองหนึ่งถ้วยหรือ 3 กรัม จะทำให้ร่างกายรู้สึกอิ่มได้นานขึ้น

บทความนี้ใช้เวลาอ่าน 25 วินาที

ประโยชน์ของฟักทอง?

ฟักทองจัดเป็นผลไม้ที่มีเส้นใยค่อนข้างสูงมาก ทำให้จึงเหมาะกับการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี โดยคุณประโยชน์สามารถใช้ได้ทั้งเปลือกและเนื้อ ลองมาดูประโยชน์เด่นๆของฟักทองดังนี้

  • ช่วยในเรื่องรักษาและบำรุงสุขภาพหัวใจ

ฟักทองประกอบด้วยแคโรทีนชนิดต่างๆเช่น เบต้าแคโรทีนอัฟฟาแคโรทีน ซึ่งช่วยให้บำรุงสุขภาพของหัวใจให้แข็งแรงนอกจากนี้ในฟักทองยังมีไฟเบอร์และโพแทสเซียมซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบหัวใจด้วยเช่นกัน

  • ช่วยลดความดันโลหิต

โพแทสเซียมและไฟเบอร์ต่างๆซึ่งสองสิ่งนี้เป็นตัวช่วยอย่างดีในการไปลดและควบคุมระดับความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีโดยฟักทองปริมาณหนึ่งเสิร์ฟมีโพแทสเซียมเกือบ 300 มิลลิกรัม หรือ 10% ของความต้องการ

  • ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล

มีผลการทดลองกับสัตว์โดยเพิ่มเมนูฟักทองลงมื้ออาหารประจำวันสามารช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในสัตว์ตัวนั้นๆได้ซึ่งก็น่าจะมีผลที่ดีเหมือนกันในร่างกายของมนุษย์เรา

  • ช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังออกกำลังกายหรือหลังจากร่างกายทำงานอย่างหนัก

มีสารต่างๆที่ช่วยทำให้ร่างกายฟื้นฟูสภาพได้เร็วและซ่อมแซมส่วนที่สึกหลอได้ดี

  • ลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง

เป็นผลไม้ที่มีกากใยสูง และอุดมไปด้วยวิตามินเอ และสารต่อต้านการผสมกันกับออกซิเจนและเกลือแร่ และมี “กรดโพรไพโอนิก” ซึ่งกรดนี้เองจะทำให้เซลล์มะเร็งให้อ่อนแอลง

  • ช่วยเรื่องการมองเห็น

มีวิตามินเอมากเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน ซึ่งวิตามินเอจะช่วยเรื่องการมองเห็น เพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องสายตาให้ดีขึ้นและช่วยให้มองเห็นในแสงทึบได้ดี

  • ช่วยเรื่องฮอร์โมนเพศ

อุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีนและสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด แ และหากผู้ชายท่านไหนไม่อยากมีปัญหาเรื่องฮอร์โมนเพศในร่างกาย การรับประทานฟักทองสามารถช่วยแก้ปัญหานี้ โดยได้มีการทำการทดลองกับหนูตัวผู้โดยให้บริโภคเมล็ดฟักทองเป็นประจำ พบว่าเมล็ดฟักทองสามารถยับยั้งไม่ให้เป็นโรคต่อมลูกหมากโต เ

คุณค่าทางโภชนาการของฟักทอง

ประกอบไปด้วย เบตาแคโรทีน, วิตามินเอ, ลูทีนและซีแซนทีน, วิตามินบี 1, วิตามินบี 2, วิตามินบี 3, วิตามินบี 5, วิตามินบี 6, วิตามินบี 9, วิตามินซี, วิตามินอี, วิตามินเค, ธาตุแคลเซียม, ธาตุเหล็ก, ธาตุแมกนีเซียม, ธาตุแมงกานีส, ธาตุฟอสฟอรัส, ธาตุโพแทสเซียม, ธาตุโซเดียม, ธาตุสังกะสี

ข้อควรระวังของฟักทอง

  • เนื่องจาก “ฟักทอง” มีฤทธิ์อุ่น ดังนั้นคนที่ “กระเพาะร้อน” คือมีอาการเช่นกระหายน้ำ ปากเหม็น หิวง่าย ปัสสาวะเหลือง ท้องผูก เป็นแผลในช่องปาก เหงือกบวม ไม่ควรทานฟักทองมากเกินไป เพราะอาจกระตุ้นให้ร่างกายร้อนขึ้นได้นั่นเอง หรือแม้แต่ในคนปกติ การทานฟักทองมากเกินไป ก็อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ไม่สบายท้องได้เช่นกัน

รู้อย่างนี้แล้ว สำหรับคุณผู้หญิงที่ต้องการลดน้ำหนัก “ฟักทอง” นี่แหละค่ะคือ “ตัวช่วย” ที่ดีตัวหนึ่งเลยทีเดียว เพราะฟักทองเป็นพืชที่มีกากใยมาก และมีแคลอรีไม่สูง ไขมันน้อย จึงไม่ทำให้อ้วน นอกจากนี้ในฟักทองมีวิตามินหลายชนิดในปริมาณสูง จะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวพรรณของคุณสาว ๆ มีน้ำมีนวล แถมสายตายังดูปิ๊งอีกต่างหาก

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

หลายคนอาจสับสนว่า ฟักทองเป็นผักหรือผลไม้ เพราะสามารถเป็นได้ทั้งอาหารหวาน อาหารคาว และของว่าง แต่คำตอบคือในทางพฤกษศาสตร์ระบุไว้ว่าเป็น “ผลไม้”

สนใจสั่งซื้อ ฟักทองผง สามารถคลิกได้ที่ [สั่งฟักทองผง]

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน เพื่อให้ผู้อ่านได้ทราบประโยชน์ต่างๆของวัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพ แต่ไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้

Leave A Comment